ทริปหาอาหารคราวนี้ตั้งใจว่าจะหาอาหารอร่อยข้างทาง เพื่อความบันเทิงและบรรยากาศการกินที่เอร็ดอร่อย เคยเห็นในรายการคู่เลิฟตะลอนทัวร์ถึงร้านเนื้อสะเต๊ะใต้ต้นข่อย 100 ปี ร้านนี้เป็นแบบหาบเร่เป็นเพิงเล็กๆอยู่ใต้ต้นข่อย ขายโดยป้าแขกซึ่งเป็นรุ่นที่สามของตระกูลที่ขายเนื้อสะเต๊ะ ป้าแขกรับช่วงกิจการมาจากพ่อ และพ่อได้มาจากปู่ เค้าว่ากันว่าปู่ป้าแขกหาบเนื้อสะเต๊ะขาย เดินหาบขายเนื้อสะเต๊ะไปจนถึงหน้าโรงเรียนมงฟอร์ต เป็นที่รู้จักของเด็กมงฟอร์ตสมัยนั้น มาถึงรุ่นป้าแขก แกได้ทำเลขายใต้ต้นข่อยบนถนนระแกงขายมาได้ 30กว่าปีแล้ว คนมากินนั่งล้อมแผงที่ดูเหมือนหาบ แต่มีที่นั่งเตี้ยๆรอบแผงของป้าแขก ป้าแขกก็ปิ้งไป เอาเนื้อสะเต๊ะใส่จานทีละ ห้าไม้หกไม้ กินแล้วฟิน ได้อารมณ์
ร้านป้าแขกเปิดแปดโมง ขายไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมด ก็ประมาณเที่ยง ป้าแขกจะทำเนื้อสะเต๊ะแค่พันไม้ หมดแล้วหมดเลย หมดแล้วกลับบ้านนอน เวลาถามป้าว่าขายยังไงคะ ป้าบอกว่าไม้ละสี่บาท สั่งได้ไม่อั้น ป้าจะนับไม้ตอนทานเสร็จ กินอิ่มก็คิดเงิน
เราเป็นรายแรกของป้าวันนั้น พอนั่งเสร็จป้าก็ยกน้ำจิ้ม อาจาด แตงกวากับหอมแดงหั่น อาจาดป้าไม่เหมือนกับที่อื่นเพราะป้าทำอาจาดแตงกวา ใส่น้ำส้มใส่พริกหั่น แต่หอมแดงกับพริกขี้หนูป้าแยกมาอีกจาน คาดว่าเอาไว้ตัดคาวของเนื้อซึ่งบอกได้เลยว่าไม่คาว ป้าเอาจานใส่เนื้อสะเต๊ะมาตั้งแล้วก็ง่วนอยู่กับการติดไฟปิ้งเนื้อ ป้าปิ้งไปเอาน้ำพรมเตาไปไม่ให้เตาไฟแรงเกินเดี๋ยวเนื้อจะไหม้ ป้าจะคอยพรมเนื้อด้วยน้ำกะทิ ทำให้เนื้อสะเต๊ะของป้าหอมกรุ่นทวีคูณ
ป้ามีโต๊ะเตี้ยๆรอบเตา 2 โต๊ะ แต่ละโต๊ะมีเก้าอี้ 4-5 ตัว ใครชอบมุมไหนเชิญนั่งตามสบาย อาจต้องเบียดๆกันบ้างถ้าคนเยอะ แต่รับรองว่าถ้าสะเต๊ะไม่หมด ได้ทานทุกคน
เนื้อของป้าเสียบมาในไม้เล็กๆ ย่างจนหอมเตะจมูก ป้าแอบกระซิบว่าเคล็ดลับไม่มีอะไรมากแค่หมักเนื้อกับขมิ้นแล้วก็น้ำตาล เนื้อมันหอมในตัวมันอยู่แล้ว น้ำจิ้มของป้าเป็นแบบน้ำจิ้มข้นๆเหมือนเนื้อสะเต๊ะทางปักษ์ใต้ แอบคิดว่าสิ่งที่ทำให้น้ำจิ้มอร่อยมากขึ้นก็ตรงถั่วที่ป้าใส่มาเป็นเม็ดๆนั่นแหละ
ป้าจะปิ้งเนื้อสะเต๊ะทีละไม่มากคาดว่าป้องกันไม่ให้ไหม้ และทานทีละน้อยแต่ทานร้อนๆมันอร่อยกว่ากันเยอะ วิธีการขายของป้าช่างแยบยล นั่งกินเพลินๆเผลอแป๊บเดียวอัดเข้าไป 22 ไม้ ท้องจะแตก ป้ายังคุยว่าบางคนกินเป็นร้อยไม้เลยนะ แค่นี้จิ๊บ จิ๊บ เนื้อสะเต๊ะร้านนี้อร่อยที่สุดที่เคยได้ตามกินเนื้อสะเต๊ะมา เนื้อหอมหวาน น้ำจิ้มเข้มข้น ไม่ใส่ผงชูรส ป้าบอกว่าไม่ใช่แนวป้า แถมบรรยากาศการกินยิ่งเข้าท่า นั่งล้อมรอบหาบป้า กินไปเรื่อยๆอิ่มก็หยุด
การนั่งกินรอบแผงป้าเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ทำให้คนแปลกหน้ามารู้จักพูดคุยกันรอบแผงเนื้อสะเต๊ะ มีการเปิดประเด็นสนทนาตามแต่ที่จะมีเรื่องน่าสนใจ ได้บรรยากาศและมิตรภาพที่คุณไม่ได้คาดคิดไปอีกแบบ กินไปคุยไป เนื้ออร่อยเผลอๆซัดเข้าไปห้าสิบไม้ไม่รู้ตัว
ใครอยากรู้ว่าร้านนี้อร่อยแค่ไหนลองมาชิมดูได้จะบอกว่าถ้าไม่อร่อยจริงไม่อยู่มาได้ถึงเกือบร้อยปีหรอกขายอยู่อย่างเดียวมันต้องมีอะไรพิเศษ
พิกัดของร้านนี้อยู่บนถนนระแกง วิธีมาคือจากหน้าไนท์บาซาร์ขับรถผ่านพันธุ์ทิพย์ทางซ้ายมือแต่ขับตรงเข้ามาทางถนนช้างคลาน ผ่านโรงแรมแชงการีลาทางซ้ายมือ พอผ่านเริ่มชิดขวา จะเห็นห้างสีสวนพลาซาอยู่ทางซ้าย เห็นโรงแรมลานนาพาเลซให้เลี้ยวขวาเข้าถนนระแกง ผ่านไปทางซ้ายมือจะเป็นร้านไก่ย่างวิเชียรบุรี ให้กลับรถหน้าร้าน ร้านป้าอยู่ฝั่งตรงข้าม โทรถามเบอร์นี้ได้ถ้าไปไม่ถูก 085-0346320 (แต่ไม่รู้ป้าจะยุ่งปิ้งเนื้อจนไม่ได้รับหรือเปล่านะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น