สำหรับพวกคนรักบะหมี่แล้วบะหมี่จะให้อร่อยต้องบะหมี่ทำเอง นวดแป้งเอง
มันถึงจะได้ความเหนียวนุ่ม นอกจากจะได้ความเหนียวนุ่มของเส้นบะหมี่แล้ว
ถ้าเครื่องพวกหมูแดง หมูสับและผักถึงเครื่องพร้อมน้ำซุปหอมกรุ่นแล้ว
มันคือที่สุดของบะหมี่หมูแดง
บะหมี่เบตง บะหมี่ทำเองเป็นบะหมี่รถเข็นที่มีครบตามที่บอกมา
ถึงแม้ว่าจะเป็นบะหมี่รถเข็นข้างทาง ต้องนั่งทานข้างถนนหรือซื้อกลับไปทานบ้าน
รสชาติร้านนี้อร่อยขาดใจแถมราคาก็ถูกแสนถูก บะหมี่ธรรมดาชามละ 30 บาทใส่เกี๊ยวหรือไม่ใส่ก็เหมือนกัน
ถ้าเป็นพิเศษก็ 35 หรือ 40 ตามแต่จะเอาบะหมี่มากน้อยแค่ไหน
ผู้ชายตัวโตๆเจอชามพิเศษเข้าไปรับรองว่าจุก
ไปแวะซื้อบะหมี่ลุงกลับบ้าน ลุงเล่าให้ฟังว่าอยู่แถวนี้มาเกือบ 40
ปีแล้ว
แต่ขายบะหมี่มาได้ประมาณ 30 ปี
สมัยก่อนขายอยู่แถวโรงเรียนเพชรรัตน์ขายตอนเย็นตั้งแต่ห้าโมงเย็นเป็นต้นไป ตอนหลังลุงย้ายทำเลมาขายริมคลองประปา
เปลี่ยนเวลาขายมาขายเช้าตั้งแต่เก้าโมงเช้า ขายไปจนหมดประมาณบ่ายสองก็กลับบ้าน
รุ่งขึ้นค่อยว่ากันใหม่
ถามลุงว่ากำไรดีมั้ย ลุงบอกว่าพออยู่ได้ ลุงอยู่ได้ คนกินอยู่ได้มันก็ไม่เดือดร้อน
ลุงไม่ได้กำไรอะไรมากมายเพราะขายราคาถูก จะได้ก็เพราะขายปริมาณมากเอา
ลูกค้าของลุงจะเป็นคนที่อาศัยแถวๆริมคลองประปาประชานิเวศน์หรือถ้าเป็นขาจรก็จะเป็นพวกคนขับรถแท็กซี่ที่มาจอดรถแวะกิน
ตอนเที่ยงๆแถวจอดรถแท็กซี่ยาวพร้อมกับคนกินนั่งบนเก้าอี้ที่วางอยู่ข้างทาง
ร้านนี้ไม่มีโต๊ะ ลูกค้าจะชอบบะหมี่ของลุงเพราะบะหมี่ลุงเส้นเหนียว
ลุงไม่หวงเครื่อง หมูแดงหมูกรอบหมูสับปั้นมาเป็นแผ่น ลุงใส่ถ้วยให้จุใจ
ลุงยังเล่าต่อว่าลุงเรียนการทำบะหมี่มาจากญาติ เค้าสอนให้ฟรีๆ
เพื่อให้ใช้เลี้ยงชีพ
บะหมี่ของลุงนั้นนวดด้วยมือแล้วเอาเข้าเครื่องรีดบะหมี่ก่อนจะนำมาตัดเป็นเส้นด้วยเครื่อง
ลุงขายบะหมี่นี้เลี้ยงตัวเองและครอบครัวมาตั้งแต่ลูกยังเล็กๆ
ตอนนี้โตเรียนหนังสือจนจบปริญญาโทไปคนหนึ่งแล้ว
ตอนนี้การทำบะหมี่ลุงยกเป็นมรดกตกทอดไปให้ลูกสาว ลูกสาวก็ทำบะหมี่มาให้ลุงขายแล้วก็รับทำบะหมี่ส่งให้กับลูกค้าต่างๆที่สั่ง
บะหมี่สดลุงจะขายที่กิโลละ 70 บาท นอกจากนั้นหมูแดง
หมูกรอบลุงก็แยกขายถ้าสั่ง จะสั่งก็โทรสั่งได้หรือมาสั่งได้ที่รถเข็น
เวลาขายของลุงนั้นจะขายตั้งแต่ 9 โมง ลุงจะถีบรถบะหมี่คันเก่งมาจอดแล้วเอาเก้าอี้มาเรียง
ต้มน้ำลวกบะหมี่ ต้มน้ำซุป เตรียมหั่นหมูแดง ลวกผัก ลวกเกี๊ยว เท่านั้นก็เตรียมขายได้
ลุงขายตั้งแต่วันจันทร์ถึงเสาร์ วันอาทิตย์หยุดพักผ่อน
บางครั้งลุงก็หายไปจากถนนทีละหลายๆวัน กลับมาอีกทีถามว่าไปไหนมา
โน่นลูกชายพาไปเที่ยวเมืองนอก พาไปเกาหลี อยากให้พักผ่อน
ทำเลที่ตั้งร้านของลุงอยู่ริมคลองประปาในหมู่บ้านประชานิเวศน์ 1
รถเข็นลุงจอดใกล้ๆกับซอย
8 แต่ถ้าคนไม่ชินทางมาแถวนี้ต้องขับรถจากถนนใหญ่กลางหมู่บ้านที่ผ่านตลาด
แล้วเลี้ยวขวาเลียบคลอง ขับมาเรื่อยๆจะมีสี่แยกให้ตรงมา
ลุงจอดรถเข็นอยู่ไม่ไกลจากสี่แยก ถ้ามาจากสี่แยกวันธรรมดาลุงจอดรถเข็นอยู่ด้านซ้าย
จอดรถฝั่งขวาแล้วเดินข้ามไป แต่ถ้าวันหยุดลุงจอดฝั่งขวาติดกับคลองประปา
ลุงไม่ค่อยรับจัดทำบะหมี่นอกสถานที่เพราะทำอยู่คนเดียว
ไอ้ที่ขายอยู่ทุกวันก็ไม่ค่อยจะทันแล้ว แต่ถ้าสนใจนำไปออกงานก็น่าจะลองถามดูได้ แต่เวลามาสั่งบะหมี่ลุงต้องมาบอกสั่งลุงที่รถเท่านั้น
อย่าได้จดโพยมายื่นให้ลุงเพราะเรื่องอ่านลุงไม่สันทัด
เนื่องจากบะหมี่ของลุงราคาถูกแสนถูก
เคยถามว่าลุงไม่คิดจะขึ้นราคาบ้างเหรอ ลุงว่าถ้าขึ้นราคาชาวบ้านจะเดือดร้อน ขายแบบนี้ก็ยังพอมีกำไร
พออยู่ได้ก็เลยไม่ขึ้นราคา ในขณะที่ไม่ขึ้นราคาลุงก็ไม่ได้ให้ปริมาณของบะหมี่ในชามลดลง
เท่าไหร่ก็เท่านั้น ร้านลุงนี่เป็นบะหมี่ขวัญใจคนจนของจริง
เวลาที่เหมาะสำหรับการสั่งบะหมี่
ยิ่งถ้าสั่งหลายๆห่อแล้วต้องก่อนสิบเอ็ดโมงเช้า ถ้าเป็นช่วงเที่ยงต้องรอคิวนาน
เพราะคนมาทานร้านลุงค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะพี่แท๊กซี่ที่มาจอดพักทานข้าวเที่ยง
แต่ถ้าเลยบ่ายโมงไปของจะเริ่มร่อยหรอแล้ว บ่ายสองโมงนั่นก็หมดเกลี้ยง
ลุงก็เริ่มแก่แล้วและก็ไม่รู้ว่าจะมีเรี่ยวแรงขายบะหมี่ไปได้อีกกี่ปี
ลูกๆลุงก็อยากให้เลิกขาย
แต่ลุงว่าอยู่เฉยๆมันน่าเบื่อออกมาทำมาหากินดีกว่าอย่างน้อยก็ได้เจอผู้คน แก้เหงา
คิดๆอยู่ว่าถ้าไม่มีร้านลุงริมคลองประปาก็คงเงียบเหงาไป อย่างแน่นอน เดี๋ยวก็มีร้านอื่นมาแทนที่
แต่ร้านบะหมี่ทำเองแบบบ้านๆแบบนี้ก็คงหาได้ยาก ยิ่งเป็นบะหมี่ราคาประหยัด
คุ้มค่าเงินในแต่ละชาม
เต็มไปด้วยเครื่องเคราที่ไม่ได้ช่วยแค่อิ่มท้องแต่ได้รับความบันเทิงจากรสชาติและสังคมใหม่ที่ได้จากการนั่งทานบะหมี่
ยิ่งหายาก
ร้านหลายๆร้าน ถ้าตกไปสู่มือรุ่นลูกแล้วก็มักจะขายเป็นแฟรนไชส์
ขึ้นไปขายตามห้าง ร้านของลุงคงไม่ได้เป็นแบบนั้น ความหวังเดียวที่จะสืบทอดร้านของลุงต่อไปก็อยู่ที่ลูกสาวคนที่ทำบะหมี่
แต่คนที่มาลวกบะหมี่ขายก็ไม่รู้ว่าจะเป็นใครถ้าหมดยุคของลุงไปหรือถ้าลุงทำไม่ไหว
นั่นละมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติ
การนั่งกินบะหมี่รอบๆรถลุงก็สร้างสังคมใหม่ๆ
ทำให้คนหลายคนที่แปลกหน้ามานั่งพูดคุยกัน แลกเปลี่ยนความคิดกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
แล้วแต่ว่าแต่ละคนจะมีหัวข้ออะไรมาเปิดประเด็นสนทนา กินอิ่มแล้วก็แยกย้ายกันไป มื้อหน้าค่อยว่ากันใหม่
บะหมี่ร้านลุงเป็นจุดหมายปลายทางของสังคมแบบพื้นบ้านก็ว่าได้ แต่ก็อาจเป็นสวรรค์สำหรับคนชอบทานหลายๆคนโดยเฉพาะแฟนพันธุ์แท้บะหมี่หมูแดง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น