วันศุกร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2558

บะหมี่เบตง ขวัญใจคนจน

สำหรับพวกคนรักบะหมี่แล้วบะหมี่จะให้อร่อยต้องบะหมี่ทำเอง นวดแป้งเอง มันถึงจะได้ความเหนียวนุ่ม นอกจากจะได้ความเหนียวนุ่มของเส้นบะหมี่แล้ว ถ้าเครื่องพวกหมูแดง หมูสับและผักถึงเครื่องพร้อมน้ำซุปหอมกรุ่นแล้ว มันคือที่สุดของบะหมี่หมูแดง

บะหมี่เบตง บะหมี่ทำเองเป็นบะหมี่รถเข็นที่มีครบตามที่บอกมา ถึงแม้ว่าจะเป็นบะหมี่รถเข็นข้างทาง ต้องนั่งทานข้างถนนหรือซื้อกลับไปทานบ้าน รสชาติร้านนี้อร่อยขาดใจแถมราคาก็ถูกแสนถูก บะหมี่ธรรมดาชามละ 30 บาทใส่เกี๊ยวหรือไม่ใส่ก็เหมือนกัน ถ้าเป็นพิเศษก็ 35 หรือ 40 ตามแต่จะเอาบะหมี่มากน้อยแค่ไหน ผู้ชายตัวโตๆเจอชามพิเศษเข้าไปรับรองว่าจุก

ไปแวะซื้อบะหมี่ลุงกลับบ้าน ลุงเล่าให้ฟังว่าอยู่แถวนี้มาเกือบ 40 ปีแล้ว แต่ขายบะหมี่มาได้ประมาณ 30 ปี สมัยก่อนขายอยู่แถวโรงเรียนเพชรรัตน์ขายตอนเย็นตั้งแต่ห้าโมงเย็นเป็นต้นไป ตอนหลังลุงย้ายทำเลมาขายริมคลองประปา เปลี่ยนเวลาขายมาขายเช้าตั้งแต่เก้าโมงเช้า ขายไปจนหมดประมาณบ่ายสองก็กลับบ้าน รุ่งขึ้นค่อยว่ากันใหม่

ถามลุงว่ากำไรดีมั้ย ลุงบอกว่าพออยู่ได้ ลุงอยู่ได้ คนกินอยู่ได้มันก็ไม่เดือดร้อน ลุงไม่ได้กำไรอะไรมากมายเพราะขายราคาถูก จะได้ก็เพราะขายปริมาณมากเอา
ลูกค้าของลุงจะเป็นคนที่อาศัยแถวๆริมคลองประปาประชานิเวศน์หรือถ้าเป็นขาจรก็จะเป็นพวกคนขับรถแท็กซี่ที่มาจอดรถแวะกิน ตอนเที่ยงๆแถวจอดรถแท็กซี่ยาวพร้อมกับคนกินนั่งบนเก้าอี้ที่วางอยู่ข้างทาง ร้านนี้ไม่มีโต๊ะ ลูกค้าจะชอบบะหมี่ของลุงเพราะบะหมี่ลุงเส้นเหนียว ลุงไม่หวงเครื่อง หมูแดงหมูกรอบหมูสับปั้นมาเป็นแผ่น ลุงใส่ถ้วยให้จุใจ

ลุงยังเล่าต่อว่าลุงเรียนการทำบะหมี่มาจากญาติ เค้าสอนให้ฟรีๆ เพื่อให้ใช้เลี้ยงชีพ บะหมี่ของลุงนั้นนวดด้วยมือแล้วเอาเข้าเครื่องรีดบะหมี่ก่อนจะนำมาตัดเป็นเส้นด้วยเครื่อง ลุงขายบะหมี่นี้เลี้ยงตัวเองและครอบครัวมาตั้งแต่ลูกยังเล็กๆ ตอนนี้โตเรียนหนังสือจนจบปริญญาโทไปคนหนึ่งแล้ว
ตอนนี้การทำบะหมี่ลุงยกเป็นมรดกตกทอดไปให้ลูกสาว ลูกสาวก็ทำบะหมี่มาให้ลุงขายแล้วก็รับทำบะหมี่ส่งให้กับลูกค้าต่างๆที่สั่ง บะหมี่สดลุงจะขายที่กิโลละ 70 บาท นอกจากนั้นหมูแดง หมูกรอบลุงก็แยกขายถ้าสั่ง จะสั่งก็โทรสั่งได้หรือมาสั่งได้ที่รถเข็น

เวลาขายของลุงนั้นจะขายตั้งแต่ 9 โมง ลุงจะถีบรถบะหมี่คันเก่งมาจอดแล้วเอาเก้าอี้มาเรียง ต้มน้ำลวกบะหมี่ ต้มน้ำซุป เตรียมหั่นหมูแดง ลวกผัก ลวกเกี๊ยว เท่านั้นก็เตรียมขายได้ ลุงขายตั้งแต่วันจันทร์ถึงเสาร์ วันอาทิตย์หยุดพักผ่อน บางครั้งลุงก็หายไปจากถนนทีละหลายๆวัน กลับมาอีกทีถามว่าไปไหนมา โน่นลูกชายพาไปเที่ยวเมืองนอก พาไปเกาหลี อยากให้พักผ่อน

ทำเลที่ตั้งร้านของลุงอยู่ริมคลองประปาในหมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 รถเข็นลุงจอดใกล้ๆกับซอย 8 แต่ถ้าคนไม่ชินทางมาแถวนี้ต้องขับรถจากถนนใหญ่กลางหมู่บ้านที่ผ่านตลาด แล้วเลี้ยวขวาเลียบคลอง ขับมาเรื่อยๆจะมีสี่แยกให้ตรงมา ลุงจอดรถเข็นอยู่ไม่ไกลจากสี่แยก ถ้ามาจากสี่แยกวันธรรมดาลุงจอดรถเข็นอยู่ด้านซ้าย จอดรถฝั่งขวาแล้วเดินข้ามไป แต่ถ้าวันหยุดลุงจอดฝั่งขวาติดกับคลองประปา

ลุงไม่ค่อยรับจัดทำบะหมี่นอกสถานที่เพราะทำอยู่คนเดียว ไอ้ที่ขายอยู่ทุกวันก็ไม่ค่อยจะทันแล้ว แต่ถ้าสนใจนำไปออกงานก็น่าจะลองถามดูได้ แต่เวลามาสั่งบะหมี่ลุงต้องมาบอกสั่งลุงที่รถเท่านั้น อย่าได้จดโพยมายื่นให้ลุงเพราะเรื่องอ่านลุงไม่สันทัด

เนื่องจากบะหมี่ของลุงราคาถูกแสนถูก เคยถามว่าลุงไม่คิดจะขึ้นราคาบ้างเหรอ ลุงว่าถ้าขึ้นราคาชาวบ้านจะเดือดร้อน ขายแบบนี้ก็ยังพอมีกำไร พออยู่ได้ก็เลยไม่ขึ้นราคา ในขณะที่ไม่ขึ้นราคาลุงก็ไม่ได้ให้ปริมาณของบะหมี่ในชามลดลง เท่าไหร่ก็เท่านั้น ร้านลุงนี่เป็นบะหมี่ขวัญใจคนจนของจริง

เวลาที่เหมาะสำหรับการสั่งบะหมี่ ยิ่งถ้าสั่งหลายๆห่อแล้วต้องก่อนสิบเอ็ดโมงเช้า ถ้าเป็นช่วงเที่ยงต้องรอคิวนาน เพราะคนมาทานร้านลุงค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะพี่แท๊กซี่ที่มาจอดพักทานข้าวเที่ยง แต่ถ้าเลยบ่ายโมงไปของจะเริ่มร่อยหรอแล้ว บ่ายสองโมงนั่นก็หมดเกลี้ยง

ลุงก็เริ่มแก่แล้วและก็ไม่รู้ว่าจะมีเรี่ยวแรงขายบะหมี่ไปได้อีกกี่ปี ลูกๆลุงก็อยากให้เลิกขาย แต่ลุงว่าอยู่เฉยๆมันน่าเบื่อออกมาทำมาหากินดีกว่าอย่างน้อยก็ได้เจอผู้คน แก้เหงา คิดๆอยู่ว่าถ้าไม่มีร้านลุงริมคลองประปาก็คงเงียบเหงาไป อย่างแน่นอน เดี๋ยวก็มีร้านอื่นมาแทนที่ แต่ร้านบะหมี่ทำเองแบบบ้านๆแบบนี้ก็คงหาได้ยาก ยิ่งเป็นบะหมี่ราคาประหยัด คุ้มค่าเงินในแต่ละชาม เต็มไปด้วยเครื่องเคราที่ไม่ได้ช่วยแค่อิ่มท้องแต่ได้รับความบันเทิงจากรสชาติและสังคมใหม่ที่ได้จากการนั่งทานบะหมี่ ยิ่งหายาก

ร้านหลายๆร้าน ถ้าตกไปสู่มือรุ่นลูกแล้วก็มักจะขายเป็นแฟรนไชส์ ขึ้นไปขายตามห้าง ร้านของลุงคงไม่ได้เป็นแบบนั้น ความหวังเดียวที่จะสืบทอดร้านของลุงต่อไปก็อยู่ที่ลูกสาวคนที่ทำบะหมี่ แต่คนที่มาลวกบะหมี่ขายก็ไม่รู้ว่าจะเป็นใครถ้าหมดยุคของลุงไปหรือถ้าลุงทำไม่ไหว นั่นละมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติ

การนั่งกินบะหมี่รอบๆรถลุงก็สร้างสังคมใหม่ๆ ทำให้คนหลายคนที่แปลกหน้ามานั่งพูดคุยกัน แลกเปลี่ยนความคิดกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ แล้วแต่ว่าแต่ละคนจะมีหัวข้ออะไรมาเปิดประเด็นสนทนา กินอิ่มแล้วก็แยกย้ายกันไป  มื้อหน้าค่อยว่ากันใหม่ บะหมี่ร้านลุงเป็นจุดหมายปลายทางของสังคมแบบพื้นบ้านก็ว่าได้ แต่ก็อาจเป็นสวรรค์สำหรับคนชอบทานหลายๆคนโดยเฉพาะแฟนพันธุ์แท้บะหมี่หมูแดง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น