ตลาดTalipapa เชื่อว่าไม่ได้เป็นตลาดหลักของเกาะ Boracay
Philippines แต่เป็นตลาดที่เป็นที่รู้จักที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวที่เกาะ
Boracay ตลาดพื้นบ้านก็คงมีหลบอยู่บ้างตามหมู่บ้านในเกาะ
เสียแต่ว่าเราไม่รู้จัก
เกาะ Boracay นั้นสวยเหมือนสวรรค์
น้ำทะเลสีเขียวเข้มตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าสด บนหาดทรายสีขาวที่ยาวสุดลูกหูลูกตา
การดำเนินชีวิตของชาวเกาะแท้ๆนั้นเรียบง่าย แต่การท่องเที่ยวของเกาะ Boracay
ก็เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
การเดินทางไปเกาะ Boracay นั้นไม่ยาก มีเที่ยวบินหลายบริษัท บินจากมะนิลาไป
Boracay เช่น Philippines Airlines หรือ Cebu Pacific Airlines เมื่อบินไปถึงสนามบิน
Caticlan จะสามารถนั่งรถรับจ้างไปที่ท่าเรือเพื่อไปต่อยังเกาะ Boracay ถ้าต้องการความสะดวกแบบไม่ต้องต่อแถวก็ให้ใช้บริการบริษัททัวร์
เช่น Southwest.
การเดินทางในเกาะนั้นสะดวกสบาย ถ้าจะเหมารถรับจ้างราคาประมาณ 50
เปโซแถวถนนรอบเกาะ
จากสเตชั่น 1 ถึง สเตชั่น 3 รวมทั้งไป D Mall หรือ ตลาด Talipapa
แต่ถ้านั่งรวมกับคนอื่นก็คนละ
10 เปโซหรือ 7 บาทเอง
ตลาด Talipapa ตั้งอยู่ใกล้กับ Station 2 บนเกาะ Boracay
เดินทางจากที่พักแถวๆ
White beach ก็ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีโดยรถรับจ้าง
มาถึงลงรถริมถนนแล้วเดินเข้าซอยไปประมาณ 50 เมตร
จะเป็นทางเข้าตลาดที่มีร้านขายอาหารแบบ kiosk พวกเบอร์เกอร์อยู่ข้างหน้า
เดินเข้าตลาดไปจะแบ่งเป็นโซน คือโซนร้านอาหาร โซนขายของสด และโซนขายของที่ระลึก
ร้านขายของที่ระลึกนั้นราคาถูกกว่าราคาที่ขายใน D Mall สำหรับสินค้าประเภทเดียวกัน
ที่สำคัญถ้าจะซื้อของที่ตลาดจะต้องต่อราคามากกว่าครึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นอาหารสดหรือของที่ระลึก ถ้าทำท่าไม่สนใจแล้วเดินหนี
ราคาจะลดลงได้อย่างน่าตกใจ
เดินผ่านเข้าไปในส่วนขายของสด ที่มีขายหมู ขายไก่ แต่ไฮไลท์คืออาหารทะเล
อาหารทะเลมีหลายแบบ หลายราคาให้เลือกซื้อ กุ้งจะมีหลายหน้าตา หลายขนาด
ด้วยราคาที่ต่างกัน การต่อรองราคาจะเริ่มจากคนขายจะเรียกราคาแบบกิโลละ ประมาณ 1500
เปโซต่อกิโล
เอิ่มมมแพงไปไหม เราก็ต่อแบบไม่กลัวโดนต่อยว่า 700 เปโซ ประมาณ
500 บาท
เออเดี๋ยวดูเจ้าอื่นก่อน คนขายแอบค้อนเล็กน้อย แล้วบอกว่า 1000 เปโซ
ราคาสุดท้าย เราก็ว่า ไม่เอา เดี๋ยวเดินดูก่อน กำลังจะเดินไป คนขายก็บอกเอาก็ได้
เจ็ดร้อยก็เจ็ดร้อย เห็นไหม เรื่องต่อราคาชาติไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก
เดินต่อไปดูปู ปูทะเลที่นี่ตัวใหญ่ หนักและแน่น
เหมือนกับมันได้ออกกำลังกายมาชั่วชีวิต ไม่เหมือนปูไทยจอมขี้เกียจ
ราคาปูที่นี่ดุเดือดเอาการอยู่ ตอนแรกบอกตัวละ 850 เราก็เอาเลย 400
ได้มั้ย
ไม่ได้ไม่เอา 400 เปโซก็ประมาณ 280 แต่ก็นับว่าถูกเมื่อเทียบกับราคาปูทะเลบ้านเรา
เดินเร่ไปถามลอบสเตอร์ อันนี้มีสองราคาคือแบบเป็น กับแบบตายแล้ว แต่ตายแล้วก็ไม่ได้ตายนานมากเรียกว่าเพิ่งสิ้นลมก็ได้ เราก็เลยเอาแบบตายแล้วมาตัวเขื่องๆตัวหนึ่ง ราคาเดิม คนขายบอก 3000 ไม่รู้จะบอกผ่านไปทำไมเราก็ต่ออยู่ดี คราวนี้ไม่ได้ต่อครึ่งเดี๋ยวโดนต่อย ต่อไปต่อมาได้มา 2000 นอกนั้นก็เป็นพวกหอย เช่นหอยเม่นตัวละ 50 เปโซ ต่อแล้ว แล้วก็หอยนางรม กิโลละ 200 เปโซ นี่ก็ต่อแล้วเหมือนกัน แล้วก็เป็นพวกปลานกแก้วหรือ Mahi Mahi ที่สีสวยจนไม่กล้ากิน กับปลาสีแดงแปร๊ดชื่อ Lapu Lapu ว่าแต่ทำไมชื่อปลาต้องเรียกซ้ำก็ไม่รู้สินะ
เดินเร่ไปถามลอบสเตอร์ อันนี้มีสองราคาคือแบบเป็น กับแบบตายแล้ว แต่ตายแล้วก็ไม่ได้ตายนานมากเรียกว่าเพิ่งสิ้นลมก็ได้ เราก็เลยเอาแบบตายแล้วมาตัวเขื่องๆตัวหนึ่ง ราคาเดิม คนขายบอก 3000 ไม่รู้จะบอกผ่านไปทำไมเราก็ต่ออยู่ดี คราวนี้ไม่ได้ต่อครึ่งเดี๋ยวโดนต่อย ต่อไปต่อมาได้มา 2000 นอกนั้นก็เป็นพวกหอย เช่นหอยเม่นตัวละ 50 เปโซ ต่อแล้ว แล้วก็หอยนางรม กิโลละ 200 เปโซ นี่ก็ต่อแล้วเหมือนกัน แล้วก็เป็นพวกปลานกแก้วหรือ Mahi Mahi ที่สีสวยจนไม่กล้ากิน กับปลาสีแดงแปร๊ดชื่อ Lapu Lapu ว่าแต่ทำไมชื่อปลาต้องเรียกซ้ำก็ไม่รู้สินะ
เราถืออาหารทะเลออกมาจากแผงขาย
ระหว่างนั้นคนที่แผงพยายามวิ่งตามมาเพื่อจะพาเราไปร้านที่เค้าจะแนะนำ
อันนี้ไม่ได้เป็นน้ำใจแต่ทำเพื่อทิป เราไม่ได้ไปตามที่เค้าแนะนำ
แต่เดินเลือกร้านตามใจชอบ
ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะซื้ออาหารสดจากตลาดแล้วให้ร้านแถวๆนั้นทำอาหารให้
ทางร้านก็จะคิดค่าทำตามประเภทของอาหาร ไอ้ที่ต้ม นึ่ง ย่างก็ถูกหน่อยประมาณ 150
เปโซ
ส่วนไอ้ที่ทำยากหน่อยเช่นมีซอสก็ขยับราคาขึ้นอีก เช่น ซอสเนย ซอสเบอร์กันดี หรือ
ซอสมะเขือเทศ ไอ้ที่ถูกอกถูกใจเป็นพิเศษคือ lemon butter sauce มันหอมเนยแล้วมันก็เปรี้ยวมะนาว
มันขับรสชาติของอาหารทะเลให้เด่นขึ้น
เราแบ่งลอบสเตอร์ ออกเป็นสองจานคือ ลอปสเตอร์ซาชิมิ ซึ่งหวานลอบสเตอร์แบบไม่ต้องทำอะไร
กับลอปสเตอร์ราดซอส lemon butter sauce อร่อยและหอมเนยเตะจมูก
พร้อมกับเนื้อลอบสเตอร์กรุบกรอบ กุ้งจะแบ่งเป็นสองส่วนคือกุ้งย่างกับกุ้งราด lemon
Butter sauce เนื้อกุ้งนั้นเหนียวแทบเคี้ยวไม่ขาด หอมหวานที่สุดในสามโลก หอยนางรมนั้นกินสด
ส่วนปูนั้นเอาไปนึ่ง มันเป็นปูที่สดอร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินปูมา
อย่างที่บอกว่ามันเป็นปูออกกำลังกาย เป็นปูฟิตเนส เนื้อมันแน่นและแข็ง
แต่ก็ชุ่มฉ่ำ ทั้งนี้ทั้งนั้น
ความสุขเหล่านี้จะไม่มีเลยถ้าไม่ได้พกน้ำจิ้มซีฟู้ดขวดไป
ขอขอบพระคุณน้ำจิ้มตราหอยนางรม คุณแซ่บมาก
เรื่องน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของฟิลิปปินส์คือ
ฟิลิปปินส์มีวัตถุดิบเรื่องการทำอาหารเหมือนบ้านเราทุกอย่าง มีกระเทียม มีพริก
มีมะนาว แต่ดันไม่รู้จักการทำน้ำจิ้ม พี่แกกินอาหารทะเลจิ้มซีอิ๊ว…… โอแม่จ้าว
ของเด็ดของฟิลิปปินส์อีกอย่างหนึ่งนำมาทำเครื่องดื่มอร่อยมาก
คือ Calamansi หรือส้มจิ๊ด น้ำส้มจิ๊ดหวานอมเปรี้ยวแก้กระหายได้เป็นอย่างดี
อร่อยมากกว่าน้ำมะม่วงซึ่งบางคนบอกว่าเป็น ของต้องลองเสียอีก มะม่วงของฟิลิปปินส์ก็ไม่อร่อยเท่ามะม่วงไทย
ไม่หวานแหลมเท่าแต่หอมกว่า ก็เลยเหมาะจะทำมะม่วงแปรรูปเช่น ไอศกรีมมะม่วงหรือมะม่วงตากแห้ง
ขนาดทำน้ำมะม่วง ยังไม่ค่อยอร่อยเลย แต่นั่นล่ะนะแล้วแต่คนชอบ บางคนก็ว่าอร่อย
คือมีคำเตือนว่าถ้าสั่งเครื่องดื่มให้ระวังชามะนาว
ที่นี่ลองมากี่เจ้าก็รสชาติยอดแย่ มันเหมือนเอาชาไปใส่ น้ำตาลเทียมกับมะนาวปลอม
รสชาติแปลกๆพิกล
เดินออกมาจาก ตลาด Talipapa ท้องอิ่ม ไม่ลืมที่จะเดินย่อยหาซื้อของที่ระลึก ของฝากจาก Boracay จะเป็นพวกเครื่องสานเช่นกระเป๋าสาน ราคาถูกจนเหลือเชื่อ ถ้าคุณต่อราคาได้ถูกที่ถูกเวลา เช่น กระเป๋าสานใบหนึ่งคนขายจะบอก 250 เปโซ แต่สามารถต่อได้ถึง 100 อันนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถส่วนตัวและความอดทน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น